คำอธิบาย
สารปรับปรุงดิน แร่ธาตุธรรมชาติ 63 ชนิด
-
กลุ่มแร่ธาตุหลัก (Macronutrients)
-
Calcium (Ca) – เสริมโครงสร้างเซลล์พืช ช่วยพืชสร้างราก
→ ใช้ปรับสภาพดินกรด และเสริมความแข็งแรงของลำต้น -
Magnesium (Mg) – ส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์
→ ช่วยให้พืชสังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น ใบเขียวเข้ม -
Potassium (K) – ควบคุมการเปิด-ปิดปากใบ
→ เพิ่มความต้านทานโรค เสริมคุณภาพผลผลิต -
Phosphorus (P) – พลังงานในกระบวนการเติบโต
→ ส่งเสริมการแตกรากและออกดอกเร็วขึ้น -
Sulfur (S) – สร้างกรดอะมิโน
→ กระตุ้นการเจริญเติบโตและเพิ่มกลิ่นในพืชสมุนไพร -
Sodium (Na) – บางพืชใช้งานแทนโพแทสเซียมได้
→ ใช้ในพืชทนเค็ม เช่น ข้าวไร่หรือพืชชายฝั่ง -
Chloride (Cl) – ควบคุมสมดุลน้ำในพืช
→ ช่วยการสังเคราะห์แสงและความสมบูรณ์ของพืช
กลุ่มแร่ธาตุรอง (Micronutrients)
-
Iron (Fe) – จำเป็นต่อการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์
→ ป้องกันใบเหลืองในพืช ใช้ในแหล่งดินขาดเหล็ก -
Zinc (Zn) – ช่วยการสร้างเอนไซม์พืช
→ เพิ่มขนาดผลผลิต และเร่งการออกดอก -
Copper (Cu) – เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในพืช
→ ป้องกันโรคเน่าในพืชผล -
Manganese (Mn) – เร่งปฏิกิริยาการสังเคราะห์แสง
→ ใช้ในพืชที่เจริญช้า ช่วยเร่งการงอก -
Boron (B) – การยืดตัวของเซลล์
→ ช่วยการผสมเกสร ป้องกันผลหลุดร่วง -
Molybdenum (Mo) – ช่วยตรึงไนโตรเจน
→ ขาดไม่ได้ในพืชตระกูลถั่ว -
Cobalt (Co) – จำเป็นต่อจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน
→ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในดิน -
Nickel (Ni) – สลายยูเรียในพืช
→ ปรับสมดุลการใช้ปุ๋ยยูเรียให้เกิดประโยชน์สูงสุด
กลุ่มแร่ธาตุพิเศษ (Ultra-trace Elements / Rare Earths)
แม้ร่างกายหรือพืชต้องการเพียงเล็กน้อย แต่อาจส่งผลมากต่อสมดุลในดิน
-
Selenium (Se) – สารต้านอนุมูลอิสระ
→ เสริมภูมิคุ้มกันให้พืช ทนต่อสภาพแวดล้อมเครียด -
Chromium (Cr) – เกี่ยวกับเมตาบอลิซึม
→ ปรับสมดุลจุลินทรีย์ดิน -
Vanadium (V) – ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์
→ ส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยธาตุอาหารในดิน -
Silicon (Si) – เพิ่มความแข็งแรงให้ผิวพืช
→ พืชทนแล้ง ทนโรคแมลงดีขึ้น -
Aluminum (Al) – มีผลเฉพาะพืชบางชนิด
→ ใช้ในการปรับสมดุล pH ดินในปริมาณที่เหมาะสม -
Tin (Sn) – ยังอยู่ระหว่างการวิจัย
→ อาจมีบทบาทในการกระตุ้นเอนไซม์ในพืช -
Iodine (I) – กระตุ้นการทำงานของพืชน้ำ
→ ใช้ในสาหร่ายและระบบไฮโดรโปนิกส์ -
Germanium (Ge) – เสริมการต้านอนุมูลอิสระ
→ เพิ่มความทนทานต่อโรค -
Barium (Ba) – พบในแร่ดินธรรมชาติ
→ เสริมการดูดซึมแร่ธาตุอื่น -
Strontium (Sr) – คล้ายแคลเซียม
→ ส่งเสริมโครงสร้างเซลล์พืช -
Lithium (Li) – ช่วยในกระบวนการเติบโต
→ พบในปุ๋ยบางสูตรเพื่อเร่งการงอก -
Rubidium (Rb) – คล้ายโพแทสเซียม
→ มีบทบาทในความสมดุลน้ำของพืช -
Cesium (Cs) – มีบทบาทร่วมกับโพแทสเซียม
→ อาจช่วยในกระบวนการถ่ายโอนพลังงาน -
Bismuth (Bi) – ต้านเชื้อจุลินทรีย์
→ อาจช่วยควบคุมโรคในดิน -
Tellurium (Te) – ต้านอนุมูลอิสระ
→ ป้องกันโรคพืชบางชนิด
(และยังมีอีก 30 กว่าชนิดที่มักปรากฏในรูปผสมเล็กน้อย เช่น Hafnium, Scandium, Yttrium, Lanthanum, Neodymium ฯลฯ ที่อยู่ในกลุ่มแรร์เอิร์ธหรือธาตุหนัก ซึ่งช่วยในด้านสมดุลดิน จุลินทรีย์ และความแข็งแรงของโครงสร้างเซลล์พืช)
-
-
สรุปการประยุกต์ใช้ในเกษตร:
-
ใช้เป็น ปุ๋ยแร่ธาตุธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูดินเสื่อมโทรม
-
เสริมแร่ธาตุให้จุลินทรีย์ ทำงานในดินได้ดีขึ้น
-
ช่วยให้พืชมี ภูมิต้านทานโรค แมลง และแล้ง
-
เพิ่มคุณภาพผลผลิต เช่น ขนาด สี และรสชาติ
-
ใช้ร่วมกับ ปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ ได้ดี
-
นี่คือตัวอย่างของตารางข้อมูลแร่ธาตุธรรมชาติ 63 ชนิด พร้อมสรรพคุณโดยย่อและการประยุกต์ใช้ในการเกษตร:
ชื่อแร่ธาตุ คุณสมบัติหลัก การใช้ในเกษตร Calcium (Ca) เสริมโครงสร้างเซลล์พืช ปรับสภาพดินกรด, เสริมราก Magnesium (Mg) ส่วนประกอบคลอโรฟิลล์ เพิ่มการสังเคราะห์แสง Potassium (K) ควบคุมปากใบ, ควบคุมน้ำ เพิ่มคุณภาพผลผลิต Phosphorus (P) ให้พลังงานแก่พืช เร่งรากและออกดอก Sulfur (S) สร้างกรดอะมิโน เพิ่มกลิ่นพืชสมุนไพร Iron (Fe) สร้างคลอโรฟิลล์ ป้องกันใบเหลือง Zinc (Zn) สร้างเอนไซม์ เร่งดอก เพิ่มผลผลิต Copper (Cu) เร่งปฏิกิริยาในพืช ต้านโรคพืช Boron (B) ยืดเซลล์, ช่วยผสมเกสร ป้องกันผลร่วง Silicon (Si) เสริมโครงสร้างพืช เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันแมลง
-
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์