ซิลเวอร์เพลสกรุ๊ป

เนื้อหาเกี่ยวกับเรา

S__25149458
S__25149459
S__25149455
476021
1844ACD5-E4D6-44DD-921E-9D90D9F0551D
476051

องค์กรซิลเวอร์เพลส กรุ๊ป จำกัด ต่อไปนี้จะปฏิบัติตาม (“บริษัท”) เรียกร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎการชำระเงินออนไลน์ ให้เกียรติความเป็นส่วนตัวของลูกค้า (“ท่าน”) และความจำเป็นที่ดีถึงความสำคัญใน ท่านผู้อ่านเคยบอกท่านไว้เสมอว่าบริษัทในเครือจึงขอประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (“นโยบาย”) เพื่อแจ้งให้เธอทราบรายละเอียดและแนวทางปฏิบัติของที่นี่ บุคคลที่ท่านคาดว่าจะได้รับความคุ้มครองคือ พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองศาล”) กฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อให้ท่านได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการจากบริษัทที่รวบรวมเนื้อหาต่อไปนี้ โปรดอ่านและคาดการณ์คำถามต่อไป
นี้ แต่ก่อนจะต้อง “ยินยอม”

1. บทนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“ข้อมูลชีวภาพ” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
2. ประเภทของผู้ใช้บริการและข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้
บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ร้านค้าออนไลน์
ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน หรือเลขหนังสือเดินทาง หรือเลขประจำตัวในเอกสารสำคัญประจำตัวที่รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐเจ้าของสัญญาติออกให้ รูปถ่าย
ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนหรือตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ทางอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ บัญชีผู้ใช้งาน Social Network เช่น LINE ID, Facebook
ข้อมูลทางการเงิน เช่น ชื่อและเลขบัญชีธนาคาร สาขาธนาคาร ข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร
ข้อมูลการรายละเอียดการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่งงาน รายละเอียดเกี่ยวกับสถานประกอบการ แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานประกอบการ
ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกบทสนทนาและการติดต่อสื่อสารระหว่างท่านกับตัวแทนให้บริการลูกค้าของบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใด ๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ เว็บไซต์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทไม่ว่าผ่านช่องทางใด ๆ บันทึกกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบริเวณอาคารสำนักงานของบริษัท
2. ลูกค้า
ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด รูปถ่าย
ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่สำหรับส่งใบเรียกเก็บเงิน และ/หรือสำหรับจัดส่งสินค้า ที่อยู่ทางอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ บัญชีผู้ใช้งาน Social Network เช่น LINE ID, Facebook
ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ข้อมูลการค้นหาสินค้าผลิตภัณฑ์ ข้อมูลธุรกรรมการคำสั่งซื้อสินค้าและการชำระเงินของท่าน บันทึกบทสนทนาและการติดต่อสื่อสารระหว่างท่านกับตัวแทนให้บริการลูกค้าของบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใด ๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ เว็บไซต์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทไม่ว่าผ่านช่องทางใด ๆ
3. ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์บริษัท
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เช่น ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท (Cookies Usage) ที่อยู่อินเตอร์เน็ตโพรโทคอล (Internet Protocol: IP) ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารที่ท่าน หน้าที่นำเข้าสู่เว็บไซต์บริษัท หน้าที่ออกจากเว็บไซต์บริษัท วันและเวลาการคลิกข้อมูล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในเชิงสถิติที่ไม่ระบุตัวตน เพื่อให้บริษัทเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท
3. วัตถุประสงค์และฐานการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานการประมวลผลในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทได้ทำไว้กับท่าน เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือ ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ซึ่งอาจจะอาศัยฐานการประมวลผลฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐานประกอบกันก็ได้ ดังต่อไปนี้
การประมวลผลตามฐานสัญญา (Contract)
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าลงทะเบียนสมัครใช้บริการกับบริษัท และ/หรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
– พิจารณาคุณสมบัติ ตรวจสอบคัดกรอง และประเมินความเสี่ยงของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
– พิจารณาอนุมัติคำขอ ให้บริการช่วยเหลือ หรือตอบข้อสงสัยของท่าน
– พิสูจน์และยืนยันตัวตนก่อนเข้าลงทะเบียนสมัครใช้บริการ
– การพิจารณา และประมวลผลข้อมูลเพื่อให้บริการแก่ท่าน
– แจ้งเตือนการทำธุรกรรม ออกหลักฐานการชำระเงิน ออกเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่าย
– ติดตามชำระหนี้
การประมวลผลตามฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
บริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวจะต้องไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐาน ประโยชน์ และเสรีภาพในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และจะต้องไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
– การบริหารกิจการของบริษัท เช่น ประเมินบริหารจัดการความเสี่ยง ตรวจสอบ ป้องกัน และเฝ้าระวังการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท
– บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน เช่น การรับเรื่องและจัดการการร้องเรียน
– มาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น แลกบัตร และ/หรือ บันทึกภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของผู้ที่มาติดต่อก่อนเข้าอาคารของบริษัท
– กรณีผู้ใช้บริการเป็นนิติบุคคล บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หรือตัวแทน
การประมวลผลตามฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation)
การปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับที่ออกโดยหน่วยงานที่กำกับดูแล และ/หรือ คำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม
การประมวลผลตามฐานความยินยอม (Consent)
ในบางกรณี บริษัทอาจมีการขอความยินยอมจากท่านก่อนจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
– ประมวลผล วิจัย และวิเคราะห์พฤติกรรม หรือความชื่นชอบของท่านเพื่อปรับปรุงและพัฒนาบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่านอย่างแท้จริง และ/หรือเพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบริการส่งเสริมการขายของบริษัทที่ท่านอาจจะสนใจ และ/หรือเพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมกับท่านโดยเฉพาะ
– เพื่อบริหารเว็บไซต์ อำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ และประเมินจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ และความนิยมในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลที่จัดเก็บไว้ข้างต้นให้แก่บุคคลที่สาม เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น
– เมื่อบริษัทมอบหมายให้ผู้รับข้อมูลดังกล่าว ดำเนินการจัดเก็บและ/หรือประมวลผลข้อมูลดังกล่าวแทนบริษัท วัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษา สำรองข้อมูล บริการเรียกข้อมูล และเพื่อความสะดวกในการให้บริการ
– เมื่อบริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเมื่อบริษัทได้รับการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่หน่วยงานหรือหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
– ผู้ซื้อหรือผู้ขายที่ท่านได้ติดต่อหรือทำธุรกรรมผ่านช่องทางการให้บริการของบริษัท
– เมื่อการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเป็นการจำเป็นสำหรับการให้บริการของบริษัท โดยเปิดเผยให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจ และนิติบุคคลอื่น ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง บริษัทที่ให้บริการขนส่ง บริษัทที่ให้บริการรับชำระค่าสินค้า และ/หรือบริการ ผู้ให้บริการการทำธุรกรรมทางการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน และผู้สนับสนุนอื่น ๆ
– เมื่อท่านให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวโดยชัดแจ้งแก่บริษัทเป็นครั้งคราว
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้รับข้อมูลดังกล่าวได้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ ไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่บริษัทได้กำหนดไว้ และจะปฏิบัติกับตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
5. ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ โดยบริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาที่ท่านยังใช้บริการหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท และอาจต่อเนื่องไปอีกเป็นระยะเวลา 10 (สิบ) ปีนับแต่วันที่มีการยุติความสัมพันธ์กับท่าน เว้นแต่ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย โดยเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนทันที
6. การโอนข้อมูลของท่านไปต่างประเทศ
กรณีที่บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เช่น กรณีบริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนแฟลตฟอร์มคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อการสบับสุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หากประเทศดังกล่าวที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ต่ำกว่าประเทศไทย บริษัทจะดำเนินมาตรการที่เห็นว่าจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนในระดับที่เพียงพอ
7. มาตราฐานการรักษาความปลอดภัย
เพื่อป้องการการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวมโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ บริษัทได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งมาตรการเชิงการบริหารจัดการองค์กร และมาตรการเชิงเทคนิคที่เหมาะสมในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะแต่บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น และกำหนดให้บุคคลเหล่านั้นรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ มีการใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันและตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บอยู่บนฐานข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น
8. การเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้หย่อนความสามารถ
บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้หย่อนความสามารถตามกฎหมาย อันได้แก่ ผู้เยาว์ (บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสตามกฎหมาย) บุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทขอให้ผู้ใช้อำนาจปกครองตามกฎหมาย โปรดดูแลไม่ให้ผู้หย่อนความสามารถที่อยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของท่านส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท หากมีกรณีที่ผู้หย่อนความสามารถส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท บริษัทจะถือว่าท่านยินยอมให้บริษัทครอบครองข้อมูลนั้น และยินยอมที่จะผูกพันตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม หากบริษัททราบว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้หย่อนความสามารถ บริษัทจะดำเนินการระงับ หยุด และลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้หย่อนที่ปราศจากความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายกำหนด
9. การเชื่อมต่อเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม
บริการของบริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์ที่ถูกเชื่อมโยงเหล่านั้นมีประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แยกและเป็นอิสระต่อกัน บริษัทขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ดังกล่าว และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหานโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม
10. บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เฉพาะเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่มีหน้าที่ และ/หรือความรับผิดชอบเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลที่กล่าวไว้ข้างต้นเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลของท่านได้ ในกรณีที่บริษัทมอบหมายให้บุคคลที่สามเป็นผู้จัดเก็บ และ/หรือประมวลผลข้อมูล บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าจะมีเฉพาะเจ้าหน้าที่ของบุคคลที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวที่มีหน้าที่ และ/หรือความรับผิดชอบเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ และ/หรือประมวลผลข้อมูลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของท่านได้
11. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม
(2) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลของท่านอยู่กับบริษัท
(3) สิทธิในการขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านอยู่ในรูปแบบข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
(4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(5) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคลของท่าน
(6) สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
(7) สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
(8) สิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่กี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการ/สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านเห็นว่าบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

คำขอใช้สิทธิที่จะได้รับความสามารถในการเป็นผู้กระทำเป็นลายลักษณ์อักษรตามรูปแบบที่บริษัทกำหนดเพื่อท้าทายความต้องการของผู้มีสิทธิเรียกร้องที่ผู้มีสิทธิ์เข้าถึงที่ดาวน์โหลดได้และบริษัทจะได้รับอย่างดีที่สุด ในการดำเนินการช่วยให้ท่านทราบภายใน 30 วัน แหล่งข้อมูลต่างๆ ขออนุญาตให้ท่านอย่าลืมสิทธิต่างๆ ของท่านซึ่งอาจถูกกำจัดภายใต้กฎหมายหรืออาจมีเหตุจำเป็นที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ จากนั้นให้ใช้สิทธิของท่านได้ เช่นเป็นการใช้สิทธิที่ไม่ปลอดภัยหรืออาจใช้
สิทธิมนุษยชนต่อสิทธิหรือเสรีภาพของผู้อื่นโดยบริษัทจะแจ้งเหตุที่ท้าทายให้ทราบด้วย
บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวได้หากต้องการรับทราบข้อมูลของเว็บไซต์ที่ผ่านเว็บไซต์มาหรือช่อง ทางเปรียบเทียบอื่น ๆ เปรียบเทียบกันถือว่าท่านยอมรับในการเปลี่ยนแปลงนั้นหมายความว่าไม่ต้องการที่จะใช้ต่อไปภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่ที่กำลังจะนำไปใช้ตามที่ต้องการ 13. กฎหมายที่ใช้บังคับนโยบายความ
เป็น
ส่วนตัว นี้ให้ยอมรับที่นี่เพราะไทย ยอมให้เขตอำนาจศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในผลลัพธ์ของข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตามข้อกำหนด 14. ช่องทางการ
ติดต่อ
เมื่อมีข้อสังเกตหรือข้อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว โปรดปฏิบัติตามข้อเรียกร้องเหล่านี้หรืออื่นๆ ในส่วนตัวอย่างการใช้สิทธิของเจ้าของแคชเชียร์ให้ติดต่อบริษัทได้ที่ชื่อ
บริษัท : บริษัท ซิลเวอร์เพลส กรุ๊ป จำกัด ขนาดเล็ก
: 436 ม.1 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
เว็บไซต์ของผู้ซื้อ : https://www.silverplacegroup.com
เเจ้งเรื่องออนไลน์ : admin@silverplacegroup.com
รหัสผ่าน : 0893566391

เปลี่ยนภาษา »